วิดีโอเพลงแปรงฟัน12ด้าน

                  

                  สื่อที่ดิฉันนำมาเสนอในวันนี้เป็นสื่อวิดีโอเพลงจัดเป็นสื่อหลายมิติ (hypermedia) ใช้เป็นสื่อการสอนที่เหมาะกับเด็กชั้นอนุบาลจนถึงชั้นประถมต้น สำหรับสื่อนี้จัดเป็นภาพเคลื่อนไหว มีทั้งภาพและเสียง  อีกทั้งภาพกราฟฟิกก็ยังเป็นการ์ตูน ทำให้น่าสนใจสำหรับเด็ก เนื้อหาในเพลงเป็นการแปรงฟันที่ถูกวิธี ทำให้ฟันสะอาดแข็งแรง สื่อชุดนี้จัดทำโดย ภาควิชาทันตกรรมชุมชน คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 

            ในการนำไปใช้ คือ สามารถนำไปเปิดในการสอนให้เด็กดูและฝึกร้องเพลงตาม ซึ่งเนื้อหาในเพลง เมื่อเด็กจำได้ก็จะนำไปปฏิบัติได้ในชีวิตประจำวันค่ะ

           ข้อดี

1. มีการใช้ภาพการ์ตูน เป็นการเร้าความสนใจของเด็ก 

2. เนื้อหาในเพลงมีการใช้คำที่มีสัมผัสคล้องจอง ง่ายต่อการจำ

3. เนื้อหาเป็นสิ่งที่เด็กสามารถนำไปปฎิบัติได้จริง 

4. เนื่องจากสื่อนี้เป็นเพลง จึงทำให้มีความเพลิดเพลิน สนุกสนาน ไม่น่าเบื่อสำหรับเด็ก

           ข้อเสีย

1.ในสื่อนี้จะมีการใช้คำที่เด็กอาจจะไม่เข้าใจ เช่น ฟลูออไรด์ คอฟัน ซึ่งน่าจะมีการอธิบายว่าฟลูออไรด์คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร คอฟันคือส่วนไหน เป็นต้น

2.ในการทำสื่อต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ในการทำ จึงจะสามารถทำได้

3.จะต้องมีคอมพิวเตอร์หนืออุปกรณ์อื่นๆในการจะเปิดให้เด็กดู

เทคโนโลยีการศึกษากับวันวานของ..ฉัน

                 สำหรับตัวดิฉันเองนะคะ ในตอนมัธยมปลาย มีการเรียนวิชาชีววิทยา คุณครูได้สอนเรื่องเกี่ยวกับการลำเลียงอาหารของพืช ซึ่งคุณครูก็จะอธิบายถึงโครงสร้างและวิธีการลำเลียงน้ำและอาหาร แต่ฉันก็ยังไม่ค่อยเข้าใจ จนครูได้นำรูปภาพใส่ Power point มาให้ดู ซึ่งก็จะเห็นถึงโครงสร้างของพืช และรู้วิธีการทำงาน ได้เพิ่มมากขึ้นจากการอธิบายของครู ทำให้เข้าใจตลอดมากขึ้น 

             หรืออีกเหตุการณ์หนึ่งคือครูบอกชื่อสัตว์มาแต่ทุกคนในห้องไม่มีใครเคยได้ยิน เนื่องจากเป็นสัตว์หายากและสูญพันธุ์ไปแล้ว จึงไม่มีใครรู้จัก ดังนั้นครูจึงบอกลักษณะแล้วให้นักเรียนวาดรูปตามที่คุณครูบอก รูปของแต่ละคนต่างก็ออกมาไม่เหมือนกัน ดังนั้นครูจึงเข้าอินเตอร์เน็ตแล้วหารูปมาให้ดู ทำให้พวกเราเข้าใจ และนึกภาพออก ซึ่งก็ไม่เหมือนกับที่พวกเราวาดเลย ดังนั้นจะเห็นได้ว่า เทคโนโลยีนั้นมีความสำคัญต่อการศึกษามากเช่นกัน ทำให้เราได้เห็นภาพของจริง จะเข้าใจมากขึ้น เราสามารถนำมาประยุกต์ใช้ให้มีความน่าสนใจ โดยเฉพาะกับตัวดิฉันเอง ซึ่งเป็นนิสิตครู สามารถที่จะนำไปใช้ประกอบการเรียนการสอนในอนาคต หรือพัฒนาให้มีความน่าสนใจมากขึ้น เป็นการต่อยอดความรู้ให้กับทั้งครูและนักเรียนได้เช่นกัน

วิเคราะห์ลักษณะการเรียนรู้ของตนเอง

วิเคราะห์ลักษณะการเรียนรู้ของตนเอง

                   คนเราทุกคนย่อมเกิดการเรียนรู้ แต่จะเรียนรู้ได้มากแค่ไหน หรือด้วยวิธีไหนนั้น เป็นสิ่งที่ทำให้แต่ละบุคคลแตกต่าง สำหรับตัวฉันเองก็มีการเรียนรู้ที่ฉันคิดว่ามันแตกต่างกับคนอื่น ถึงแม้จะเหมือนกันบ้างแต่คิดว่าคงไม่มีใครจะเหมือนเราไปหมดซะทุกอย่าง และฉันคิดว่าวิธีการเรียนรู้ของแต่ละบุคคลนั้นเป็นสิ่งวิเศษและน่าทึ่งอย่างมากในตัวของแต่ละคน เพราะถือเป็นสิ่งที่ทำให้เราเกิดพัฒนาการ ถึงบางคนจะมองว่าธรรมดาก็ตาม

              การเรียนรู้ของฉันถึงจะไม่กระโดดข้ามขั้นหรือรวดเร็วแต่ก็ทำให้ฉันเกิดการเรียนรู้ได้ นั่นจึงเป็นสิ่งฉันภูมิใจ สำหรับตัวฉันเองฉันคิดว่าฉันเป็นคนที่มีหลากหลายวิธีในการเรียนรู้ ถ้าจะพูดถึงตามหลักการทฤษฏีก็คงเอาทุกทฤษฏีมารวมกันนั่นเอง จากทฤษฏีแรกเป็นทฤษฏีความแตกต่างระหว่างบุคคล เป็นทฤษฏีของสกินเนอร์ซึ่งเป็นนักจิตวิทยา ฉันคิดว่าฉันมีการเรียนรู้ที่ต่างจากคนอื่น และคนอื่นก็ต่างกับฉันเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นด้านร่างกาย สติปัญญา สังคม อารมณ์ หรือแม้แต่ความสนใจใฝ่รู้ ขอยกตัวอย่างเช่น คุณครูอธิบายวิธีหาสมการทางคณิตศาสตร์และให้โจทย์มา เพื่อนสามารถเข้าใจและทำได้เลย แต่ฉันยังค่อยไม่เข้าใจ นี่ก็เป็นความแตกต่างทางด้านสติปัญญา หรือมีเพื่อนอีกคนมีปัญหาทางหูไม่ค่อยได้ยิน จึงต้องฟังหลายๆรอบ  ซึ่งก็เป็นปัจจัยที่ทำให้การเรียนรู้มีความแตกต่างกัน บางทีฉันไม่เข้าใจในวิธีที่ครูสอนหรืออธิบาย แต่เข้าใจในวิธีที่ตัวเองคิดและได้คำตอบออกมาเหมือนที่ครูเฉลย
              ส่วนทฤษฏีหลักการเกิดความคิดรวบยอดเป็นทฤษฏีของLaurence J.Peter(1972) อาจเป็นการแสดงพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปจากการเรียนรู้ ซึ่งอาจจะมีสิ่งเร้าเข้ามาช่วยกระตุ้น เช่น ฉันเคยหัดขับรถ ครั้งแรกมีความรู้สึกสนุก จึงขับมาเรื่อยๆ จนขับได้ ต่อมาฉันได้ขับรถชนคน ทำให้ฉันไม่กล้าที่จะขับรถอีกเลย จนถึงปัจจุบันนี้ จะเห็นได้จากแผนภาพข้างล่างนี้

สรุป

ฉันคิดว่า การเรียนรู้ก็เหมือนกับโจทย์ทางคณิตศาสตร์ ไม่มีวิธีคิดที่ตายตัว สามารถคิดได้หลากหลายวิธีแล้วแต่ความเข้าใจของแต่ละคน แต่สุดท้ายก็ได้คำตอบที่ถูกเหมือนกัน เหมือนกับการเรียนรู้ที่อาจมีวิธีการไม่เหมือนกันแต่ก็เกิดการเรียนรู้เช่นกัน ดังนั้นสำหรับตัวฉันเองก็มีการเรียนรู้หลากหลายทฤษฏี แต่จะแตกต่างกันในเรื่องของสถานการณ์หรือสิ่งแวดล้อมเท่านั้นเอง

หลักการวิเคราะห์ ออกแบบสื่อการสอน

                    สื่อการสอนที่ดิฉันจะนำเสนอนั้นเป็นของกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ จะเป็นสื่อประเภทสิ่งพิมพ์ จัดทำในเรื่อง อาหารหลัก 5 หมู่ 

การวิเคราะห์ผู้เรียน

          สื่อนี้ใช้สำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2  ซึ่งจะต่อยอดมาจากชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 อาจจะมีการทวนความรู้เดิมบ้าง มีการใช้เนื้อหาที่เหมาะกับวัยหรือช่วงอายุของเด็ก หรืออาจจะช่องทางการรับรู้ของเด็ก

กำหนดวัตถุประสงค์

เพื่อให้นักเรียนมีความเข้าใจเกี่ยวกับอาหาร รู้ว่าแต่ละหมู่มีอาหารประเภทใดบ้าง และให้สารอาหารชนิดไหน มีส่วนช่วยในการทำงานของระบบต่างๆในร่างกายอย่างไร และสารอาหารนั้นมีอยู่ในอาหารประเภทใดบ้าง ในสื่อของนิสิตนั้นก็จะมีการเร้าความสนใจของเด็กด้วยรูปภาพการ์ตูน ที่มีสีสันสดใส และมีเนื้อหาที่เหมาะสมกับวัยของเด็ก ทำให้เด็กสามารถคิดตาม ทำความเข้าใจ และสามารถนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันได้

           
 เลือกวิธีการ การใช้สื่อ และวัสดุอุปกรณ์อื่นๆ

            สื่อที่ดิฉันจะทำนั้นมีการใช้ภาษาที่เหมาะสมกับผู้เรียน มีความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ เนื้อหาตามวิชา ได้มีการทวนความรู้เดิมเล็กน้อยและชี้แนวทางการเรียนรู้เพื่อให้เด็กได้นึกตามได้ ในส่วนของการนำเสนอเนื้อหาจะนำเสนอรูปภาพตัวอย่างและคำอธิบายพอสังเขป จะมีแบบฝึกหัดคั่นระหว่างอาหารแต่ละหมู่เพื่อกระตุ้นการตอบสนองของเด็ก มีคำเฉลยเป็นการให้ข้อมูลย้อนกลับ เพื่อที่เด็กจะสามารถรับรู้ถึงพัฒนาการของตนเองได้

ประเมินผลและปรับปรุงแก้ไข

        มีการทดสอบความรู้เป็นแบบฝึกหัดท้ายบทหรือเป็นแบบทดสอบหลังเรียน เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจ สามารถสรุปบทเรียนที่ผ่านมาได้ นักเรียนสามารถนำไปประยุกต์หรือต่อยอด การเรียนรู้โดยการจำและนำไปใช้ได้ค่ะ